วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ยอดหมา​ ​โดดกัดคนร้าย​ ​ช่วย​นาย​! [27 ​ก​.​พ​. 51 - 03:35]




เมื่อเวลา​ 16.30 ​น​. ​วันที่​ 26 ​ก​.​พ​. ​ผู้​สื่อข่าวไปที่​โรงพยาบาลสัตว์​ ​พีอีที​ ​รักษาสัตว์​ ​ตั้ง​อยู่​ริมถนนสายอ่างทอง​-​พระนครศรีอยุธยา​ ​ต​.​บางแก้ว​ ​ใน​เขตเทศบาลเมือง​ ​หลัง​ได้​รับแจ้งว่า​ ​มีสุนัข​ช่วย​ชีวิตเจ้าของ​แล้ว​ถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บ​ ​เมื่อไป​ถึง​พบสัตวแพทย์ผ่าตัด​ช่วย​ชีวิตสุนัข​ ​นำ​หัวกระสุนปืน​ 9 ​มม​.​ออก​จาก​ขาหน้าด้านขวา​และ​ดามกระดูกขาที่ถูกกระสุนปืนยิงจนหัก​ ​อาการพ้นขีดอันตราย​ ​นายสัตวแพทย์ดนัย​ ​สุมานิก​ ​ผู้​ผ่าตัดเปิดเผยว่า​ ​เมื่อ​ ​เช้า​ที่ผ่านมามีนางทวี​ ​มากมี​ ​อายุ​ 42 ​ปี​ ​อยู่​บ้านเลขที่​ 86/6 ​หมู่​ 6 ​ต​.​ชัยภูมิ​ ​อ​.​ไชโย​ ​จ​.​อ่างทอง​ ​นำ​สุนัขถูกยิง​ 2 ​นัด​ ​บาดเจ็บสาหัสมาส่ง​ให้​ช่วย​ชีวิต​ ​จึง​ผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกปลอดภัย​แล้ว

ด้านนางทวี​ ​มากมี​ ​เจ้าของ​ซึ่ง​เฝ้าดูอาการ​อยู่​ไม่​ห่างเปิดเผยว่า​ ​ทำ​งาน​อยู่​โรงงานแห่งหนึ่ง​ใน​ ​อ​.​พรหมบุรี​ ​จ​.​สิงห์บุรี​ ​หลังเลิกงานขี่จักรยานยนต์กลับบ้าน​ ​ระหว่างขี่ข้ามสะพานเพื่อเลี้ยว​เข้า​บ้าน​ ​เห็นนายโต๋​ ​ไม่​ทราบนามสกุล​กับ​พวก​ ​ซึ่ง​เป็น​คน​ใน​ละ​แวกบ้านทะ​เลาะ​กับ​วัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง​จึง​ถามว่ามี​เรื่องอะ​ไร​กัน​

ขณะที่นายโต๋กลับตะ​โกนสวนมาว่ามึงเก่งนัก​หรือ​พร้อม​กับ​คว้ามีดวิ่ง​เข้า​มา​ไล่ฟัน​ ​จึง​รีบขี่รถหนี​เข้า​บ้าน​ ​แต่นายโต๋​ไม่​ยอมเลิก​ ​ขับรถกระบะ​โตโยต้า​ ​รุ่นวี​โก้​ไม่​ทราบหมายเลขทะ​เบียนกลับไปเอาปืนพกที่บ้าน​และ​บุก​เข้า​มา​ใน​บ้านตน​ซึ่ง​ระหว่าง​นั้น​อยู่​คนเดียว​ ​นายโต๋​ ​ใช้​ปืนจี้หัว​และ​บอกว่าอวดเก่งนักก็ตายซะ​เถอะ​ ​ด้วย​ความ​กลัว​ได้​นั่งลงยกมือไหว้ขอชีวิตทัน​ใด​นั้น​สุนัขชื่อไอ้ก๋า​ ​เป็น​สุนัขพันทางเพศ​ผู้​ ​อายุ​ 14 ​ปี​ ​ที่​เลี้ยง​ไว้​ตั้งแต่​เล็ก​ ​วิ่งมา​จาก​หลังบ้านกระ​โดด​เข้า​ไล่กัดนายโต๋จนบาดเจ็บ​ ​จึง​ถูกนายโต๋ยิง​ใส่​ 2 ​นัดซ้อนจนแน่นิ่งไป​ ​จาก​นั้น​นายโต๋หันปืนมา​จะ​ยิงตนอีก​ ​ต้อง​ก้มลงกราบอ้อนวอนร้องขอชีวิตจนคนร้ายใจอ่อน​และ​ขับรถออก​จาก​บ้านไป​ ​ตน​จึง​รีบนำ​ไอ้ก๋าส่งโรงพยาบาลสัตว์​ “​ฉันซึ้ง​ใน​ความ​ซื่อสัตย์ที่ยอมตายแทนเพื่อ​ช่วย​ชีวิตเจ้าของ​ให้​พ้นอันตรายจนตัวเองถูกยิงแทน​” ​นางทวีกล่าวพร้อม​กับ​น้ำ​ตาคลอ​

ส่วน​ ​พ​.​ต​.​อ​.​ปิยะศักดิ์​ ​ดาวฤกษ์​ ​ผกก​.​สภ​.​ไชโย​ผู้​รับผิดชอบท้องที่​เกิดเหตุ​ ​กล่าวว่า​ ​ยัง​ไม่​ทราบเรื่องที่​ ​เกิดขึ้น​เพราะ​ผู้​เสียหาย​ไม่​ได้​แจ้ง​ความ​ ​หลังทราบเรื่อง​จะ​ให้​พนักงานสอบสวนไปสอบถามรายละ​เอียด​ ​เพราะ​เป็น​คดีอาญา​ทั้ง​พกพาอาวุธปืน​ ​และ​ยัง​พยายามฆ่า​ ​และ​จะ​รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

'​มิ่งขวัญ​'​วูบลมจับ​ ​หงายตึง​ ​โพเดียมทับหน้าอก​ [26 ​ก​.​พ​. 51 - 03:29]

เมื่อเวลา​ 13.30 ​น​. ​วันที่​ 25 ​ก​.​พ​. ​ที่​โรงแรมเซ็นทารา​ ​เวิลด์​ ​นายสมัคร​ ​สุนทรเวช​ ​นายกรัฐมนตรี​และ​ ​รมว​.​กลา​โหม​ ​เดินทางไป​เป็น​ประธาน​ใน​พิธี​เปิดงาน​ “​โพสต์​ ​ฟอรัม​ 2008 ​มองไปข้างหน้า​กับ​รัฐบาล​ใหม่​”

ผู้​สื่อข่าวรายงานว่า​ ​ภายหลังที่นายกฯกล่าวจบ​ ​ถึง​คิวนายมิ่งขวัญขึ้นกล่าวปาฐกถา​เรื่อง​ “​การตลาดประ​เทศไทย​” ​แต่ก่อนการปาฐกถา​ ​นายมิ่งขวัญ​ได้​กล่าวว่า​ ​ไม่​ทราบว่า​ ​วันนี้​จะ​พูดจบ​หรือ​เปล่า​ ​เพราะ​ไม่​สบายมาก​ ​เป็น​หวัด​ ​จาก​นั้น​ได้​พูดต่อว่า​ ​ยุทธศาสตร์​เศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้​จะ​เน้นสานต่อนโยบายประชานิยมสู่รากหญ้า​ ​เพิ่มราย​ได้​และ​ลดรายจ่ายประชาชน​โดย​เร็ว​ที่สุด​ ​พร้อม​ทั้ง​ออกมาตรการองรับระยะสั้น​ ​กลาง​ ​ยาว​ ​ที่สำ​คัญคือการสร้างมูลค่าผ่านนวัตกรรมทาง​ความ​คิด​ ​เช่น​ ​การผลักดันพืชเศรษฐกิจชนิด​ใหม่​ ​หรือ​สนับสนุนโครงการโอทอป​

นายมิ่งขวัญกล่าวว่า​ ​สำ​หรับวิธีการหาราย​ได้​เข้า​ประ​เทศ​ 3 ​รูปแบบ​ ​คือการหาราย​ได้​จาก​การท่องเที่ยว​ ​ซึ่ง​สร้างราย​ได้​รวด​เร็ว​ที่สุด​ ​นอก​จาก​นี้​ ​จะ​ใช้​วิธี​เพิ่มมูลค่าของประ​เทศ​ ​จาก​อุตสาหกรรมบันเทิง​ ​เหมือนที่หลายประ​เทศทำ​ ​เช่น​ ​เกาหลี​ ​ที่นำ​ดารานักร้อง​ ​มา​ช่วย​ประชาสัมพันธ์​เพิ่มมูลค่า​ให้​ประ​เทศ​ ​ต่อไปไทย​จะ​ต้อง​สร้างดารา​ ​นักร้อง​ ​ละครภาพยนตร์​ ​ระดับนานาชาติ​ ​แข่งขันสู่นานาชาติ​ด้วย​ ​หรือ​อาจร่วมมือ​กับ​ผู้​ผลิตค่ายหนังยักษ์​ใหญ่​จาก​ฮอลลีวูด​ ​นำ​บทภาพยนตร์​ไทยไปผลิต​เป็น​หนังฟอร์ม​ใหญ่​ออกฉายไปสู่ตลาดโลก​ ​เช่น​ ​เรื่องพระอภัยมณี​ ​เรื่องนี้​จะ​ช่วย​ประ​เทศ​ได้​มาก​


ผู้​สื่อข่าวรายงานว่า​ ​ระหว่างที่นายมิ่งขวัญกล่าวปาฐกถามา​ถึง​ การผลักดันการส่งออกอุตสาหกรรมบันเทิง​ ​นายมิ่งขวัญเริ่มมี​เสียงแหบ​ ​หน้าตาซีดเซียว​ ​มีอาการซวนเซมือจับโพเดียมแน่น​ ​และ​ล้มลงหมดสติจนโพเดียมทับลงไปที่ตัว​ ​จาก​นั้น​เกิด​ความ​โกลาหลขึ้น​ ​พิธีกร​ได้​ประกาศว่า​ผู้​ที่มาร่วมงาน​ ​มี​ใคร​เป็น​หมอ​ ​หรือ​พยาบาล​หรือ​ไม่​ ​ขอ​ให้​ช่วย​มาปฐมพยาบาล​ด้วย​ ​ซึ่ง​ ​นพ​.​ศุภชัย​ ​ชัยธีระพันธ์​ ​ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลเจ้าพระยา​ ​และ​ ​พล​.​ต​.​ท​. ​นพ​.​นุกูล​ ​เจียมอนุกลกิจ​ ​อายุรแพทย์​โรคหัวใจ​ ​โรงพยาบาลเจ้าพระยา​ ​ที่มาร่วมงาน​ ​และ​เป็น​ 1 ​ใน​ผู้​สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้​ ​ได้​รีบรุดขึ้นไปบนเวที​เพื่อปฐมพยาบาล​ ​ขณะที่นายสุวิทย์​ ​คุณกิตติ​ ​รองนายกฯ​ ​พร้อม​ด้วย​นายพิชายชื่นสุขสวัสดิ์​ ​บรรณาธิการอำ​นวยการโพสต์​ ​พับลิชชิ่ง​ ​ซึ่ง​นั่ง​อยู่​แถวหน้าสุด​ ​ก็รีบตามขึ้นไป​ช่วย​เหลือบนเวที​

ผู้​สื่อข่าวรายงานว่า​ ​จาก​การสอบถาม​ผู้​ใกล้​ชิดนายมิ่งขวัญ​ ​ทราบว่านายมิ่งขวัญมีอาการ​ไม่​สบายมาหลายวัน​แล้ว​ ​เพราะ​เครียด​กับ​งานที่กระทรวงพาณิชย์​ ​โดย​เฉพาะ​เรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น​ ​และ​การแก้​ไขปัญหาการส่งออก​ ​ประกอบ​กับ​มี​เวลาพักผ่อนน้อยมาก​ ​แต่ละวัน​จะ​เข้า​นอนเวลา​ 01.00 ​น​. ​และ​ตื่นนอนประมาณ​ 05.30 ​น​. ​ก่อนการมาบรรยาย​ใน​ครั้งนี้​ ​หลังอาหารเที่ยงเพิ่งรับประทานยา​แก้หวัด​เข้า​ไป​ ​ทั้ง​นี้​ ​ตั้งแต่ช่วง​เช้า​ ​นายมิ่งขวัญ​ได้​เข้า​ร่วมประชุมที่ทำ​เนียบรัฐบาล​ ​และ​มาร่วมงานโพสต์​ ​ฟอรั่ม​ 2008 ​โดย​ก่อน​จะ​ขึ้นรถนายมิ่งขวัญมีท่าทีที่อิดโรย​ ​และ​กล่าว​กับ​ผู้​สื่อข่าว​ด้วย​น้ำ​เสียงซึมๆ​ว่า​ ​วันนี้​ไม่​ค่อยสบาย​ ​ปวดหัว​ ผู้​สื่อข่าวรายงานว่า​ ​อาการ​เป็น​ลมของนายมิ่ง​-​ขวัญ​ไม่​ได้​เพิ่งเกิด​เป็น​ครั้งแรก​ ​เมื่อประมาณ​ 1 ​ปี​เศษที่ผ่านมา​ ​สมัยที่ดำ​รงตำ​แหน่ง​ ​ผอ​.​อ​.​ส​.​ม​.​ท​. ​ที่​ต้อง​ลุยงานอย่างหนัก​ ​นายมิ่งขวัญเคย​เป็น​ลมจมน้ำ​ใน​สระว่ายน้ำ​ ​ที่​ ​บ้านถนนพัฒนาการมา​แล้ว​ ​แต่​โชคดีที่คนขับรถเห็น​เข้า​ ​และ​นำ​ตัวขึ้นมา​จาก​สระ​และ​ทำ​การปั๊มหัวใจ​ช่วย​เหลือ​ไว้​ได้​ทัน

ข่าวตัดต่อจาก ไทยรัฐ


รายงานล่าสุด คุณมิ่งขวัญพ้นขีดอันตราย รอผลตรวจเอ็กซเรย์กระโหลกศรีษะ
ขอบคุณครับ ที่ตั้งใจทำงาน แต่ใจเย็น ๆ หน่อยก็ได้ครับ ถ้าต้องเปลี่ยนตัว รมว พาณิชย์ อีกก็ไม่รู้จะฝากความหวังไว้ที่ใครในรัฐบาลชุดนี้
-- pC --

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

นักประดิษฐ์​ ​คิดการ​ใหญ

คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
นักประดิษฐ์​ผู้​สร้างแสงสว่างแก่​โลก​ ​ใน​พิพิธภัณฑ์​เอดิสัน​ ​นิวยอร์ก

​เครื่อง​ใช้​ไฟฟ้าอย่างเดียว​ ​ที่​แทบ​จะ​ไม่​เปลี่ยนแปลงเลย​ใน​ช่วงหลายทศวรรษคือ​ ​เตารีด​ ​ขณะที่​แผ่นเสียงไวนิลยุคคุณพ่อ​ ​วันนี้ถูกย่อเหลือแค่​เอ็มพีสาม​ ​นวัตกรรมเกิด​ใหม่​ทุกวัน​ ​แล้ว​ใคร​จะ​ไล่ทัน​

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์​ : ​บรรดาสิ่งประดิษฐ์ที่มี​อยู่​ใน​โลก​ ​ล้วนพัฒนาขึ้น​จาก​ความ​คิดที่​แปลก​ใหม่​ ​ทั้ง​ที่สร้างเพื่อ​ช่วย​อำ​นวย​ความ​สะดวก​ ​แก้​ไขปัญหาง่ายๆ​ ​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ชีวิตประจำ​วัน​ ​ไปจน​ถึง​สิ่งประดิษฐ์ที่​โดดเด่น​ใน​เรื่อง​ความ​ความ​แปลก​และ​แตกต่างทาง​ความ​คิด​

​ดูอย่างเบียร์ของ​ ศ​.​ดร​.​บิลลี่​ ​แอล​ ​มา​แลง ​นักประดิษฐ์ชาวฟิลิปปินส์​ ​ที่มาร่วมจัดแสดง​ใน​งานวันนักประดิษฐ์​โลกเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์​ ​ที่​เมืองทองธานี​

คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
จักรยานไฟฟ้า​จาก​แดนปลาดิบ​ ​ทำ​ความ​เร็ว​ได้​สูงสุด​ 6 ​กม​./​ชม​.

​แม้​แต่​เด็กอนุบาลก็รู้ว่า​เหล้า​ ​เบียร์​ ​ยาดอง​ ​กิน​เข้า​ไปมี​แต่ทำ​ร้ายสุขภาพของตัวเอง​ ​และ​อาจ​ถึง​ขั้นทำ​ร้าย​ผู้​อื่น​ ​ยัง​เป็น​อบายมุข​ ​และ​เป็น​ข้อห้าม​ใน​ศีลข้อ​ 5 ​ตามหลักพุทธศาสนา​ ​จนรัฐบาล​ต้อง​ประกาศเก็บ​ "ภาษีบาป"

​หากยึดตามคอนเซปต์นี้​ "เบียร์วิตามิน" ​ของนักประดิษฐ์​แดนตากาล็อกคนนี้อาจ​ไม่​เข้า​ข่าย​ ​เพราะ​เบียร์ของ​เขา​ดื่ม​แล้ว​ดีต่อสุขภาพ​ ​ฟัง​แล้ว​ไม่​น่า​เชื่อ​

​ศ​.​ดร​.​บิลลี่​ ​แอล​ ​มา​แลง​ ​บอกว่า​ ​ถ้า​คิด​จะ​ผลิตสินค้า​แบบเดียว​กัน​มาจำ​หน่าย​ใน​ตลาด​ ​ถ้า​ไม่​แปลก​ใหม่​ ​ไม่​ต้อง​ทำ​ ​เพราะ​ต้อง​ฟาดฟัน​กับ​เจ้าตลาดมี​แข่ง​กัน​รุนแรง​อยู่​แล้ว​

คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
เบียร์วิตามิน​ ​เปิด​ให้​คนไทยลิ้มรสเมื่อต้นเดือน​ ​ก​.​พ.

"หาก​ต้อง​การ​ให้​ขาย​ได้​ใน​ท้องตลาด​ ​จำ​เป็น​ต้อง​มี​ความ​ใหม่​ ​และ​แตกต่าง"

​หลัง​จาก​ตรึกตรอง​อยู่​สักพัก​ ​เขา​คิดฉีกตลาดวงการเครื่องดื่มทำ​ลายสุขภาพ​ด้วย​ "​เบียร์วิตามิน" ​เป็น​เบียร์ที่ดื่ม​แล้ว​สุขภาพ​ไม่​เสื่อมโทรม ​เขา​ทดลองเติมวิตามินชนิดต่างๆ​ ​ลงไป​ใน​เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์​ ​ซึ่ง​เป็น​ผลงานการพัฒนาที่​ไม่​เคยมี​ใครคิด​ ​และ​กล้าทำ​มาก่อน​

​จนกระทั่ง​ได้​สูตรเบียร์ชนิด​ใหม่​ ​สำ​หรับเปิดโอกาส​ให้​ผู้​ที่สุขภาพ​ไม่​เอื้ออำ​นวย​ ​ได้​ลิ้มรสชาติของเบียร์​ ​โดย​เสริมวิตามินชนิดต่างๆ​ ​ลง​ใน​เบียร์​ ​เช่น​ ​กลุ่มวิตามินบี​ 1 ​บี​ 2 ​บี​ 6 ​และ​บี​ 12 ​และ​ไนอาซีน​ ​ช่วย​ทำ​ให้​การทำ​งานของระบบประสาทดีขึ้น​

คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
ผลงานกีตาร์​จาก​วัสดุ​ใกล้​ตัว​ ​ไอเดียเยาวชนไทย

"วิตามินบีมี​ส่วน​ช่วย​ใน​เรื่องระบบประสาท​ ​ดัง​นั้น​คนที่​เคยดื่มเบียร์​แล้ว​มีอาการมือสั่น​ ​ใจสั่น​สามารถ​ลิ้มรสเบียร์​เสริมวิตามินชนิดนี้​ได้​โดย​ไม่​เป็น​อันตรายต่อสุขภาพ​ ​โดย​เป็น​ครั้งแรกที่มีการผสมวิตามินลง​ใน​เครื่องดื่มแอลกอฮอล์​" ​เจ้าของผลงานกล่าว​

​ปัจจุบันเบียร์ดังกล่าว​ได้​ผลิต​และ​จำ​หน่าย​ใน​ประ​เทศฟิลิปปินส์​ ​โดย​บริษัท​ Manila Innovation Development Society ​โดย​มี​ ​ดร​.​มา​แลง​ ​นั่งเก้าอี้​เป็น​กรรมการบริษัท​ ​จำ​หน่ายเบียร์​เสริมวิตามิน​ ​ภาย​ใต้​ชื่อทางการค้าว่า​ ​วิตามินเบียร์​ ​จน​ได้​รับ​ความ​นิยม​จาก​นักดื่มพอสมควร​

​นอก​จาก​วิตามินเบียร์​แล้ว​ ​บริษัทดังกล่าว​ยัง​ได้​พัฒนาอมยิ้มเสริมวิตามิน​ ​ใน​รูปแบบที่คล้ายคลึง​กัน​ ​เพียงเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย​จาก​สิงห์นักดื่มมา​เป็น​เด็ก​เท่า​นั้น​

คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่

เสื้อกั๊กติดจีพี​เอส

​งานวันนักประดิษฐ์​โลกที่ผ่านมามีผลงาน​จาก​หลายประ​เทศ​เข้า​ร่วมประกวดประชัน​ หนึ่ง​ใน​นั้น​คือ​ ​เสื้อชูชีพ​ ​ของนายโอ​ ​จอง​ ​ฮวุน​ ​นักประดิษฐ์สัญชาติ​เกาหลี​

​พ่อหนุ่มโอคนนี้มองเห็นจุดอ่อนสำ​คัญของเสื้อชูชีพที่ซุก​อยู่​ใต้​ที่นั่ง​ผู้​โดย​สารเครื่องบิน​ ​แน่นอนว่ามัน​ช่วย​ชีวิต​ผู้​โดย​สาร​ได้​หากเครื่องตกลงกลางทะ​เล​ ​และ​ลอยคอรอคนมา​ช่วย​ ​และ​เสื้อชูชีพของ​ผู้​โดย​สารทุกคนเหมือน​กัน​หมด​ไม่​ว่า​จะ​นั่ง​ "​เฟิร์สคลาส" ​หรือ​ "อี​โคคลาส"

คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
มหัศจรรย์สำ​หรับ​ผู้​หญิง​ ​สวม​แล้ว​หุ่นดี

​ปัญหาสำ​คัญ​อยู่​ที่​ต้อง​รออีกนานแค่​ไหน​ ​หน่วยกู้ภัย​จะ​มา​ถึง​ ​แล้ว​พวก​เขา​จะ​รู้​ได้​อย่างไรว่า​ ​อาจมี​ผู้​โดย​สารบางคนลอยไปไหนต่อไหน​แล้ว​ ​ยิ่งกว่า​นั้น​ ​เวลา​อยู่​ใน​น้ำ​นานๆ​ ​มีหวังร่างกายช็อก​เพราะ​อากาศเย็น​ ​เรียกว่าตายช้ากว่า​เครื่องตก​

​นักประดิษฐ์คนนี้​จึง​ได้​ปิ๊งไอเดียติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณ​ GPS ​เพื่อ​ช่วย​ระบุตำ​แหน่งของ​ผู้​ที่สวม​ใส่​ ​หากเกิดอุบัติ​เหตุ​ ​ชิพ​จะ​ส่งสัญญาณแจ้ง​ให้​หน่วยกู้ภัยรู้ตำ​แหน่งของตัวเอง​ได้​

​เสื้อชูชีพของ​เขา​ยัง​มีสารเพิ่ม​ความ​อบอุ่น​ใน​ตัวเสื้อ​ เมื่อสารดังกล่าวสัมผัส​ความ​เย็น​จาก​น้ำ​ ​จะ​แตกตัว​และ​ให้​ความ​อบอุ่น​อยู่​ได้​นาน​ 10 ​ชั่วโมง​

​ใน​กรณีที่นักท่องเที่ยวพลัดหลง​ ​และ​สูญหาย​ ​เครื่องส่งสัญญาณ​จะ​ทำ​งานแบบไร้สาย​ ​โดย​อาศัยพลังงาน​จาก​แผงโซลาร์​เซลล์ขนาด​เล็ก​ที่ติด​อยู่​บริ​เวณหน้าอกของตัวเสื้อ​ ​สามารถ​ระบุตำ​แหน่ง​ผู้​ประสบภัย​ได้​อย่างแม่นยำ​ใน​ระยะ​ 50 ​เมตร​

"ผลงานเสื้อกั๊กชูชีพนี้​ได้​รับการสนับสนุน​จาก​องค์การส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศเกาหลี​ ​หรือ​ Korean IT Promotion Agency (KIPA) ​โดย​เสื้อชูชีพที่พัฒนาขึ้นมีราคาสูงกว่า​เสื้อชูชีพ​ทั่ว​ไป​ ​แต่​เมื่อวัดประสิทธิภาพ​แล้ว​คุ้มค่ากว่า​" ​เจ้าของผลงานกล่าว​

​ปัจจุบันเริ่มทดลอง​ใช้​จริงร่วม​กับ​บริษัททัวร์ทางทะ​เล​ ​ควบคู่​กับ​การพัฒนา​ ​ระบบการ​ค้น​หาตำ​แหน่ง​จาก​ดาวเทียม​ให้​ครอบคลุม​ได้​ใน​ระยะ​ไกล​ขึ้น

ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ดร​.​อาจองแนะ​เติบโตอย่างมั่นคง​ใน​กระ​แส"​โลกาภิวัตน์​"



​เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา​ ​มีกิจกรรมน่าสนใจที่คลับ​ ​ทีน​ ​วอยซ์​ ​ของบริติช​ ​เคานซิล​ ​จัดขึ้นที่​โรงแรมโนโวเทล​ ​สยามสแควร์​ ​ซึ่ง​ ​ดร​.​อาจอง​ ​ชุมสาย​ ​ณ​ ​อยุธยา​ ​ได้​มาบรรยายแบบสบายๆ​ ​แต่​ได้​สาระ​ใน​หัวข้อ​ “Global Citizens-​สุดยอดคุณสมบัติสู่การ​เป็น​พลเมืองโลกยุค​ใหม่​”

เหลือเชื่อที่งานนี้​จะ​เห็นเยาวชนวัยทีน​ ​อายุตั้งแต่​ 13-19 ​ปีควงแขน​ผู้​ปกครองมาฟัง​ ​ดร​.​อาจอง​ ​พูด​ถึง​ความ​สำ​คัญของการ​เป็น​พลเมืองโลกที่ดี​ ​และ​การเตรียมตัวด้านการศึกษา​และ​ทักษะที่สำ​คัญเพื่อเติบโตอย่างมั่นคง​ ​ใน​กระ​แสโลกาภิวัตน์​กัน​แบบแน่นขนัด​ ​และ​ที่น่าชื่นใจที่สุดคือ​ ​มี​เด็กกลุ่มหนึ่งสนใจที่​จะ​รู้ว่า​ “​พลเมืองโลกที่ดี​” ​ควรมีบทบาทหน้าที่อย่างไร​

ดร​.​อาจอง​ ​ได้​ให้​ความ​เห็น​ถึง​ “​พลเมืองโลกที่มีคุณภาพ​” ​ซึ่ง​เป็น​เทรนด์​ใหม่​ของการพัฒนาว่า​ ​พลเมืองโลกที่มีคุณภาพ​ ​คือบุคคลที่มี​ความ​มั่นใจ​และ​มี​ความ​คิดสร้างสรรค์​ ​รู้จักพัฒนาตนเองผ่านการศึกษา​และ​การเรียนรู้ตลอดชีวิต​ ​มี​ความ​สามารถ​ใน​การสื่อสารภาษาอังกฤษ​และ​ภาษา​อื่นๆ​ ​ได้​ ​เข้า​ใจบทบาทหน้าที่​และ​ความ​รับผิดชอบของตน​ทั้ง​ใน​ด้านจริยธรรม​และ​การกระทำ​ต่อชุมชนที่​อยู่​อาศัย​ ​ประ​เทศ​และ​ระดับโลก​ ​เป็น​ผู้​ที่สนใจ​ ​เคารพ​ ​และ​เข้า​ใจ​ใน​วัฒนธรรม​อื่นๆ​ ​ให้​ความ​ร่วมมือ​และ​ช่วย​เหลือ​ใน​เรื่องต่างๆ​ ​ที่ส่งผลกระทบระดับโลก​



สรุปง่ายๆ​...​พลเมืองที่มีคุณภาพของโลกอนาคต​จึง​ไม่​ใช่​แค่คนเก่ง​ ​แต่​เป็น​คนที่​ทั้ง​เก่ง​ ​ฉลาด​ ​ดี​ ​และ​มี​ความ​รับผิดชอบต่อ​ส่วน​รวม​!

แม้กิจกรรมของคลับทีนวอยซ์ครั้งนี้​ ​จะ​จบลงไป​แล้ว​ ​แต่บริติช​ ​เคานซิล​ ​มีการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์สำ​หรับเยาวชนเช่นนี้​อยู่​อย่างสม่ำ​เสมอ​ ​ดัง​นั้น​นักเรียนนักศึกษา​ทั่ว​ไปที่สนใจ​จะ​เข้า​ร่วมกิจกรรมดีๆ​ ​และ​ได้​สาระ​แบบนี้​ ​สามารถ​ตรวจสอบตารางกิจกรรม​ ​หรือ​สมัครสมาชิก​ได้​โดย​ ​ไม่​เสียค่า​ใช้​จ่าย​ใดๆ​ ​ที่​ http://teenvoice.britishcouncil.or.th ​หรือ​สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม​ ​โทร​.0-2652-5480-9

.........



ล้อมกรอบ

.........

ดร​.​อาจอง​ ​เป็น​ที่รู้จัก​กัน​ดี​อยู่​แล้ว​ว่า​เป็น​อดีตนักเรียนที่มีผลการเรียนดี​เลิศ​ ​เป็น​นักวิชาการที่มีผลงานโดดเด่นมากมาย​ ​และ​เป็น​ที่รู้จัก​ใน​วงกว้าง​จาก​โฆษณาชิ้นหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน​ ​ว่า​เป็น​ผู้​ออกแบบ​และ​สร้างอุปกรณ์ควบคุมการลงจอดบนพื้นดาวอังคารของยานอวกาศไวกิ้ง​ ​นาซา​เคยยื่นข้อเสนอ​ด้วย​เงินเดือนมหาศาลเพื่อ​ให้​ ​ดร​.​อาจอง​ ​ทำ​งานที่นั่นต่อแต่ท่านเลือกที่​จะ​กลับมาทำ​ประ​โยชน์​ให้​แผ่นดินเกิด​

นอก​จาก​นี้​ ​ท่าน​เป็น​ผู้​เชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์​ ​แต่ศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง​ ​และ​นำ​มา​เป็น​หลัก​ใน​การดำ​เนินชีวิต​ ​ขณะนี้ท่าน​ยัง​เป็น​ผู้​บริหารโรงเรียนสัตยา​ไสที่มุ่งถ่ายทอด​ให้​เด็กๆ​ ​มีคุณธรรม​ ​จริยธรรม​ ​ควบคู่​ไป​กับ​วิชา​ความ​รู้



ที่มา คมชัดลึก

ลุงเหลือ​ยอดนักประดิษฐ์

ถ้า​พูด​ถึง​งานอดิ​เรก​ใน​ช่วงบั้นปลายชีวิตของคนชรา​ทั่ว​ไป​ส่วน​ใหญ่​ ​คง​จะ​หนี​ไม่​พ้นการปลูกต้นไม้​ ​นั่งเล่นหมากรุก​ ​อยู่​กับ​บ้านเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน​ ​หรือ​เข้า​วัดฟังเทศน์ฟังธรรม​ ​หากแต่มีชายชราคนหนึ่งที่วันๆ​ ​หนึ่ง​ ​เกือบตลอด​ 24 ​ชั่วโมง​ ​ใช้​เวลาหมดไป​กับ​การนั่งคิดสร้างสรรค์​ ​ประดิษฐ์คิด​ค้น​สิ่งต่างๆ​ ​ตามหัวคิดแบบชาวบ้านๆ

นักประดิษฐ์ชาวบ้าน​ ​นักวิทยาศาสตร์​ ​ป​.4 ​หรือ​ใคร​จะ​ให้​นิยามอะ​ไรก็ตาม​ ​แต่คน​ใน​แถบ​ ​อ​.​แม่​แตง​ ​จ​.​เชียง​ใหม่​ ​จะ​คุ้นตา​กัน​ดี​กับ​ชายชราร่างสูง​ใหญ่​วัยเกือบ​ 80 ​ปี​ ​ที่ผมเผ้ามี​แต่​จะ​ลดน้อยถอยลง​ ​ฟันฟางก็หักหมดปาก​ ​วันๆ​ ​ง่วน​อยู่​กับ​กองเศษวัสดุ​เหลือ​ใช้​มากมายที่คนนำ​ไปทิ้งขว้าง​ ​เศษขยะต่างๆ​ ​เหล่านี้​ ​ชายชราคนเดียว​กัน​กลับมองว่าของทุกอย่างล้วน​ ​มีประ​โยชน์ทุกชิ้น​ไม่​ควร​จะ​ทิ้งอย่างไร้ค่า​ ​ฉะ​นั้น​ ​บ้านไม้สองชั้น​ทั้ง​หลัง​จึง​เต็มไป​ด้วย​เศษวัสดุสิ่งของมากมายหลากหลายชนิดที่​แออัดยัดเยียด​อยู่​ใน​ทุกพื้นที่ของบริ​เวณบ้าน

ชายชราที่กำ​ลังเอ่ย​ถึง​คนนี้​ ​มีชื่อว่า​ "ลุงเหลือ​ ​เปรมปราคิน" ​อดีตลูกจ้างประจำ​ของกรมชลประทาน​ ​ที่​เริ่มต้นทำ​งานตั้งแต่อายุ​ 22 ​ปี​ ​จนกระทั่ง​ถึง​วัย​ ​ปลดเกษียณ

"ตอนเด็กๆ​ ​ผมชอบแกะนู่นแกะนี่​ ​ชอบสงสัยว่า​เครื่องยนต์กลไกมัน​เป็น​อย่างไร​ ​และ​ผมก็​เรียนรู้ทุกอย่าง​ด้วย​ตัวเองตลอด​ ​ตั้งแต่​เครื่อง​ใช้​ไฟฟ้าทุกชนิด​ ​คอมพิวเตอร์​ ​เครื่องยนต์กลไก​ ​การออกแบบโครง​ ​สร้างต่างๆ​ ​รี​โมตคอนโทรล​ ​เครื่องไฮดรอลิกส์​ ​ช่างเชื่อม​ ​ช่างไฟฟ้า​ ​ช่างก่อสร้าง​ ​และ​อื่นๆ​ ​อีกทุกชนิด​ ​ทุกวันนี้ผมก็​ยัง​ศึกษา​ค้น​คว้า​ใน​เรื่องที่ผม​ยัง​ไม่​รู้อีกมากมาย​ ​ผมว่าการเรียนรู้​ไม่​มีที่สิ้นสุด​ ​ตราบ​ใด​ที่​เรา​ยัง​มีลมหายใจ​อยู่​"



สิ่งประดิษฐ์มากมายหลายชนิด​ ​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ ​หมวก​กัน​น็อคที่​สามารถ​ฟังเพลง​ได้​ ​เครื่องตัดหญ้า​แบบ​ใช้​รี​โมตคอนโทรล​ ​เครื่อง​ใช้​ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์​ ​เครื่องบินบังคับวิทยุ​ ​แม้กระทั่งเครื่องบิน​เล็ก​ที่​ใช้​ขับ​ได้​จริง​ ​สิ่งประดิษฐ์​เหล่านี้ล้วนเกิด​จาก​เศษวัสดุ​เหลือ​ใช้​ทั้ง​นั้น

แต่​ใน​จำ​นวนสิ่งประดิษฐ์มากมายหลากหลายที่ผ่านมันสมอง​ ​ผ่านหัวคิดสร้างสรรค์​ ​จินตนาการของนักประดิษฐ์ชาวบ้านๆ​ ​แบบลุงเหลือ​ ​ก็คง​ไม่​มีสิ่งประดิษฐ์ชิ้นไหนน่าทึ่ง​เท่า​กับ​สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้​ ​นั่นก็คือ​ "จานดาวเทียมกระทะ​เหล็ก" ​ของลุงเหลือนั่นเอง

"ช่วงที่มีจานดาวเทียม​เข้า​มา​เมืองไทย​ใหม่ๆ​ ​ที่สร้างขึ้นมาที่สถานีจานดาวเทียมที่ศรีราชา​ ​กว้าง​ 29 ​เมตร​ ​หนัก​ 200 ​กว่าตัน​ ​ลงทุนไป​ทั้ง​หมด​ 141 ​ล้านบาท​ ​ผมก็สนใจ​ ​และ​พยายามศึกษา​ค้น​คว้ามาตลอด​ ​โดย​หา​ความ​รู้​จาก​หนังสือ​ทั่ว​ไป​ทั้ง​อเมริกา​และ​อังกฤษ​ ​ผมอ่านภาษาอังกฤษ​ไม่​ออกหรอก​ ​แต่​เราก็​ใช้​ตัว​ช่วย​ให้​คอมพิวเตอร์ทำ​การแปล​ให้​ ​ผมก็ศึกษา​ค้น​คว้ามา​เรื่อยๆ​ ​จนจานดาวเทียม​เป็น​ที่​แพร่หลายมากขึ้น​ ​ราคาก็​เริ่มลดลงประมาณ​ 38,000 ​บาท​ ​แต่​เงินเดือนของผม​ไม่​กี่บาท​ ​ผม​จึง​รวบรวมเงินเก็บ​เท่า​ที่มี​ไปขอซื้อจานดาวเทียม​ ​แต่ขอซื้อเฉพาะจานอย่างเดียว​เขา​ไม่​ให้​ ​ผมก็​เลยคิด​ค้น​ทำ​เองเลย​ ​โดย​ทดลองเอาสิ่งของ​ใกล้​ตัว​ ​เช่น​ ​เหล็กอะลูมิ​เนียมตู้​กับ​ข้าว​ ​กระทะที่​เรา​ใช้​ทำ​กับ​ข้าว​ ​โดย​คิดว่าอะ​ไรที่มันสะท้อนคลื่น​ได้​นั้น​ก็​สามารถ​ทำ​ได้​หมด"



จานดาวเทียมกระทะ​เหล็กของลุงเหลือ​ ​จึง​ถูกนำ​ไปติดตั้งตามโรงเรียนต่างๆ​ ​ทั้ง​ใกล้​และ​ไกล​ ​เพื่อ​ให้​นักเรียน​ได้​เรียนรู้ระบบการศึกษาทาง​ไกล​ผ่านดาวเทียม​ ​จาก​จานกระทะ​เหล็กของลุงเหลือ​ ​ด้วย​ความ​คิดที่ว่า​ ​ความ​รู้​ไม่​ควรถูกปิดกั้น​ ​แต่ควร​จะ​กระจายไปทุกที่ทุกตำ​บล

เพราะ​เป็น​คนที่​เรียนรู้ทุกอย่าง​อยู่​ตลอดเวลา​ ​ใน​บั้นปลายชีวิตของลุงเหลือ​จึง​คิดว่าทำ​อย่างไร​จึง​จะ​ให้​ได้​งานมากที่สุด​เท่า​ที่​จะ​มาก​ได้​ ​และ​เวลาที่​เหลือ​อยู่​ก็มี​แต่ถดถอยลงไปทุกขณะ​ ​ลุงเหลือ​จึง​ใช้​เวลาอย่างคุ้มค่า​ ​และ​เป็น​ประ​โยชน์มากที่สุด

วันเวลา​ใน​ช่วงกลางวัน​ใน​แต่ละวัน​ ​ถ้า​ไม่​หมดไป​กับ​การประดิษฐ์คิด​ค้น​สิ่งต่างๆ​ ​ก็​จะ​มีคนที่สนใจเรื่องจานดาวเทียม​ทั้ง​ใกล้​และ​ไกล​เดินทางมาขอคำ​แนะนำ​บ้าง​ ​หรือ​บางวันลุงเหลือก็​จะ​เดินทางไปตามโรงเรียนต่างๆ​ ​ที่​เชิญมา​ ​ให้​ไปสอน​ให้​กับ​ครู​ ​อาจารย์​ ​นักเรียน​ ​ไม่​เว้นแม้​แต่สอนนักการภารโรงเกี่ยว​กับ​การบำ​รุงรักษา​ ​ส่วน​ใน​ช่วงกลางคืนลุงเหลือก็​ไม่​ได้​ทิ้งเวลา​ให้​เปล่าประ​โยชน์​ ​ศึกษา​ค้น​คว้า​ใน​อินเตอร์​เน็ต​ ​บางทีก็​เขียนโปรแกรมออโต้​แวร์​ ​เพื่อนำ​มาสร้างสื่อการเรียนการสอนบันทึกลงแผ่นซีดี​แจกจ่ายไปตามโรงเรียนต่างๆ​ ​อีก​ด้วย

"ผม​ไม่​คิดที่​จะ​ทำ​ขาย​ ​หรือ​จดลิขสิทธิ์​ ​ผมอยาก​ให้​ความ​รู้กระจายไป​ใน​ทุกพื้นที่​ ​ดัง​นั้น​ ​ผมถือว่ามัน​เป็น​กุศลที่ผม​ได้​มอบ​ให้​กับ​คน​อื่น​ ​อันดับแรกคือ​ ​ร่างกายผม​ไม่​ป่วย​ยัง​แข็งแรงดี​ ​สองผม​ความ​จำ​ยัง​ดี​ยัง​ทำ​ประ​โยชน์​ได้​ ​และ​สามคือ​ ​ผมพอ​อยู่​พอกิน​ไม่​ได้​อยากร่ำ​รวยอะ​ไร​ ​ฉะ​นั้น​ ​เรื่องเงินเรื่อง​เล็ก​ ​ถ้า​ตัวเรา​อยู่​สุขสบาย​แล้ว​ล่ะก็​ ​วิธีคิดเหล่านี้ผม​ได้​มา​จาก​พระราชดำ​รัสของ​ใน​หลวง​ ​คือคิดอะ​ไร​ให้​มันง่ายๆ​ ​เข้า​ไว้​อย่าสลับซับซ้อน​ ​คน​อื่น​เขา​จะ​ได้​ทำ​ตาม​ได้​"

เพราะ​เหตุ​ใด​ชายชราวัย​ใกล้​ 80 ​ปี​ ​และ​เป็น​นักประดิษฐ์ฝีมือชาวบ้าน​ ​จึง​สามารถ​เรียนรู้​ ​สร้างสรรค์​ ​คิด​ค้น​สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ​ ​ไว้​อย่างมากมาย​ ​ถ้า​หาก​ไม่​มี​ความ​เชื่อเกี่ยว​กับ​เรื่องของการเรียนรู้ตลอดเวลา​ ​ที่สำ​คัญก็คือว่า​เมื่อเรียนรู้​แล้ว​ ​ลุงเหลือเอา​ความ​รู้ของตนเองไปทำ​คุณประ​โยชน์​ให้​กับ​สังคมต่อไปอีก​ ​ใน​ยุคสมัยที่คน​ส่วน​ใหญ่​มัก​จะ​เป็น​ผู้​รับมากกว่าการ​เป็น​ผู้​ให้​ ​ลุงเหลืออาจ​จะ​มีคำ​ตอบ​ให้​กับ​การนำ​ความ​รู้​เพื่อไปสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ​ ​ให้​กับ​ผู้​อื่น​อีกมากมาย​ ​เพราะ​การ​เป็น​ผู้​ให้​ย่อมมี​ความ​หมายต่อการ​เป็น​ผู้​รับอย่างแน่นอน

ที่มา มติชน

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ทำนายอนาคตผ่านไบเบิล


" ข่าวนายกรัฐมนตรียิตชัค ราบินถูกคนร้ายลอบสังหารเสียชีวิตในวันที่ 4 พฤศจิกายน 1995 และข่าวตึกคู่แฝด เวิร์ลด์ เทรด เซ็นเตอร์ ถูกเครื่องบินผู้ก่อการร้ายบินถล่มเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 เป็นข่าวใหญ่ทั่วโลกก็จริง แต่ไม่น่าเป็นเรื่องแปลก หากท่านอ่านพบข่าวนี้จากหนังสือพิมพ์สักหนึ่งวันหลังเกิดเหตุ

แต่สมมติว่าท่านอ่านพบเรื่องนี้ มาก่อนล่วงหน้านานเป็นพันปีล่ะ? " [1]

เพราะเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของโลกได้ถูกบันทึก เข้ารหัสไว้แล้วในคัมภีร์ไบเบิล !!!






หนังสือ The Bible Code โดย Michael Drosnin ได้ถูกตีพิมพ์ออกมาครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1997 ติดตามด้วย The Bible Code II ในปี ค.ศ. 2002 เนื่อหาในหนังสือเกี่ยวกับรหัสที่ซ้อนอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล

รหัสที่ซ้อนอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลนี้ ได้กำลังถูกถอดรหัสโดย นักคณิตศาสตร์ชาวอิสราเอล Prof. Eliyahu Ripsด้วยเทคนิคทางคณิตศาสตร์ ปรากฎว่า ข้อความที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของโลกได้ถูกวางไว้ในรูปแบบรหัสตัวอักษรในคัมภีร์ไบเบิล ด้วยรูปแบบต่าง ๆ


จากการถอดรหัส ทำให้ได้เห็นว่ามีข้อมูลและข่าวสารซ่อนอยู่มากมายในคัมภีร์ไบเิบิลทั้งเรื่องแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศจีนการที่มนุษย์เดินทางไปดวงจันทร์ เรื่องเกี่ยวกับ JFK เรื่องเกี่ยวกับคดีวอเตอร์เกต การค้นพบหลอดไฟของเอดิสันการค้นพบเรืองแรงโน้มถ่วงของนิวตัน และอื่น ๆ อีกมากมาย


แม้จะมีคนค้านว่ามันมีความเป็นไปได้อยู่แล้วที่รหัสข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลเพราะคัมภีร์ไบเบิลนั้นมีเนื้อหาเยอะมาก แค่หาตัวอักษรที่ประกอบในข้อความที่เรียงกันอย่างไม่ต่อเนื่องในหนังสือมันก็จะต้องหาได้อยู่แล้วเหมือนกับเราไปค้นหาตัวสะกดชื่อเราในหนังสือพิมพ์สักเล่มไม่ต้องต่อกันก็ได้ แต่ขอให้ระยะห่างของตัวอักษรแต่ละตัว ห่างเท่า ๆ กัน ก็คงต้องเจออย่างแน่นอน



เรื่องนี้ Prof. Eliyahu Rips ค้านว่า จริงอยู่ว่ามันจะต้องเจอคำ ๆ นั้น ในคัมภีร์ไบเบิล

แต่เรื่องที่แปลกมหัศจรรย์ก็คือ ทำไม คำต่าง ๆ จึงมาเรียงร้อย อยู่ในบริเวณเดียวกัน

อย่างเช่น ถ้าหาคำว่า เอดิสัน (Edison) ก็จะเจอคำว่า หลอดไฟ (Light Bulb) และไฟฟ้า (Electricity) อยู่บริเวณเดียวกัน

ตัวอย่างการเจอคำว่ายานอวกาศ (Spaceship) และ คนบนดวงจันทร์ (Man on Moon)


แปลกแต่จริง !!!


หลังจากที่หนังสือ The Bible Code ออกมาสู่สายตาชาวโลก มีโปรแกรมคอมพิวเตอร์หลายตัวได้ออกตามมาเพื่อให้ผู้ใ้ช้ได้ลอง ค้นหาชื่อตัวเองในไบเบิล เผื่อว่าคุณจะเป็นคนสำคัญสักคนหนึ่ง ที่ไบเบิลได้บันทึกไว้ อย่างเช่นที่ CodeFinder Bible Code Software ด้วยราคาแพงถึงเกือบ $70 (แปลงเป็นเงินไทยก็หลายพันบาท)


แต่วันนี้ jit-jai-d แจกของฟรี อีกแล้วครับทั่น


ผู้ที่อยากทดลองเล่นถอดรหัสคัมภีร์ไบเบิล อย่างง่าย ๆ ขอให้ทำดังนี้

1) Download โปรแกรม เพื่อหาการวางตัวอักษร ได้ที่นี่ โปรแกรม (Program ) (Link ถูกลบถ้าอยากลองเล่นติดต่อเ้้จ้าของ Blog นี้โดยตรงนะครับ)
โปรแกรมนี้ถูกเขียนขึ้นในแบบ Open Source สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก
http://DmitryBrant.com โปรแกรมนี้สามารถค้นหารูปแบบ (Pattern) ของคำที่ค้นหาในเอกสารในรูปแบบ text file ใดก็ได้


2) หลังจากลงโปรแกรมเรียบร้อย คราวนี้ ก็ต้องหาตัวไบเบิล ที่เป็น text file เนื่องจาก คัมภีร์ไบเบิลต้นฉบับนั้นเขียนด้วยภาษา Torah ซึ่งก็คงจะยากและต้องใ้ช้ความรู้ด้านภาษาถ้าจะถอดรหัสจากภาษา Torah โดยตรง


เลยแนะนำให้ Download คัมภีร์ไบเบิลที่เป็น Text File ในรูปแบบที่เป็นภาษาอังกฤษ ได้ที่
download bible from gutenberg สำหรับ http://www.gutenberg.org ได้ใ้ห้บริการ e-book มีหนังสือ (text file) มากมายให้ download มาอ่านเล่น และไฟล์ที่ผู้อ่านกำลัง download อยู่นี้ ก็เป็น The Bible , Old and New testaments, King James Version


หลังจากที่ได้ไฟล์ทั้งสองครบแล้ว ( 1)โปรแกรม 2) ไบเบิล ) ก็เริ่มเล่นกันได้เลย เรียกโปรแกรมขึ้นมา และเปิดไฟล์ไบเบิล จากนั้น ก็ใส่คำที่ต้องการค้นหา

ตัวอย่างจากโปรแกรม "WTC Plane Crash"


คุณอาจจะถอดปริศนาที่ซ่อนอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล ได้ด้วยตัวคุณเอง



อ้างอิง

1. วินทร์ เลียววาริณ, หนังสือ ำ , Bible Code ทำนายอนาคตผ่านไบเบิล, 2547
2. http://en.wikipedia.org/wiki/The_Bible_Code
3. http://en.wikipedia.org/wiki/Michael_Drosnin
4. http//en.wikipedia.org/wiki/Eliyahu_Rips
5. http://www.research-systems.com/codes/codefind.html
6. http://dmitrybrant.com/fun-with-the-bible-code
7. http://www.gutenberg.org/etext/10

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

แห่กราบพระบัวเข็ม​ ​ลอย​ใน​แม่น้ำ​ปราจีน

​เหตุการณ์ชาวบ้านแตกตื่น​ ​พา​กัน​แห่กราบไหว้พระพุทธรูปที่​โผล่ขึ้นเหนือน้ำ​ครั้งนี้​ ​เปิดเผยขึ้นเมื่อสาย​ ​วันที่​ 14 ​ก​.​พ​. ​ผู้​สื่อข่าว​ได้​รับแจ้งว่ามีชาวบ้านพบพระพุทธรูปลอย​อยู่​ใน​แม่น้ำ​ปราจีนบุรี​ ​เขตเทศบาลตำ​บลกบินทร์​ ​อ​.​กบินทร์บุรี​ ​จ​.​ปราจีนบุรี​ ​จึง​เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง​ ​พบพระพุทธรูปดังกล่าวลอย​อยู่​เหนือน้ำ​จริง​ ​จึง​นำ​ขึ้นมาตรวจสอบ​


พบ​เป็น​พระพุทธรูปที่​แกะสลัก​ด้วย​ไม้​ ​มีการลงรักปิดทอง​ทั้ง​องค์​ ​รอบองค์พระ​และ​ใต้​ฐานของพระมี​เศษกระดาษ​ ​ซึ่ง​ชำ​รุด​เป็น​รูพรุนจนมอง​ไม่​ออก​แล้ว​ว่า​เป็น​เศษกระดาษอะ​ไร​ ​คาดว่าน่า​เป็น​ธนบัตรสมัยโบราณบรรจุ​อยู่​มากมาย​ ​จึง​นำ​พระพุทธรูปดังกล่าวไปประดิษฐานที่วัด​ใหม่​ท่าพาณิชย์​ ​เขตเทศบาลตำ​บลกบินทร์​ ​อ​.​กบินทร์บุรี​

​นายสุธีระ​ ​ทองโบราณ​ ​ผอ​.​โรงเรียนเทศบาล​ 2 (วัด​ใหม่​ท่าพาณิชย์) ​กล่าวว่า​ ​มีชาวบ้านคนหนึ่งไปหว่านแหหาปลาบริ​เวณต้นแม่น้ำ​ปราจีนบุรี​ ​ขณะที่กำ​ลังลอยเรือหาปลา​อยู่​นั้น​ ​ก็​ได้​พบ​กับ​สิ่งแปลกประหลาดเหมือนขอนไม้ที่ลอยน้ำ​มา​ ​จึง​ได้​จอดเรือดู​ ​ปรากฏว่า​เป็น​พระพุทธรูป​ ​จึง​บอก​ให้​ชาวบ้านละ​แวก​ใกล้​เคียงทราบ​ ​กระทั่งข่าวแพร่สะพัดจนชาวบ้านพา​กัน​แห่มาดูกราบไหว้จำ​นวนมาก​ ​ตามประวัติศาสตร์คาดว่าพระพุทธรูปดังกล่าวน่า​จะ​สร้าง​ใน​สมัยรัชกาลที่​ 3 ​หรือ​ที่​ 4 ​มีอายุกว่า​ 100 ​ปีขึ้นไป​ ​มีชื่อเรียก​กัน​ว่า​ "พระอุปคุต​ ​หรือ​พระบัวเข็ม" ​เชื่อ​กัน​ว่า​เป็น​พระที่ประทับจำ​ศีลเสวยวิมุตติสุข​อยู่​ที่สะดือทะ​เลลึก​

​ผอ​.​โรงเรียนเทศบาล​ 2 ​กล่าวอีกว่า​ เหตุที่​เรียก​กัน​ว่าพระอุปคุต​หรือ​พระบัวเข็ม​นั้น​ ​เป็น​เพราะ​มีปุ่มนูนขึ้นมา​ 9 ​แห่ง​ ​เช่น​ ​หน้าผาก​ 1 ​แห่ง​ ​หัวไหล่​ 2 ​แห่ง​ ​สะ​โพก​ 2 ​แห่ง​ ​มือ​ 2 ​แห่ง​ ​และ​เข่า​ 2 ​แห่ง​ ​สมัยก่อน​ทั้ง​ 9 ​แห่งนี้​จะ​บรรจุพระอรหันต์ธาตุ​ ​โดย​นำ​ไม้ชัยพฤกษ์มา​เหลา​ให้​เล็ก​ตอกปิดพร้อมเสกคาถาอาคมกำ​กับ​ไว้​ด้วย​ ​เชื่อ​กัน​ว่า​เป็น​พระศักดิ์สิทธิ์ก่อ​ให้​เกิดลาภผล​ ​ความ​มั่งมี​ ​ขจัดภยันตรายต่างๆ​ ​เสริมสร้างสวัสดิมงคล ​ตามประ​เพณีนิยมของพวกมอญ​ ​มี​ความ​เชื่อ​กัน​ว่า​ใน​ปี​ใด​ก็ตามที่มีวันพุธ​ ​ตรง​กับ​วันขึ้น​ 15 ​ค่ำ​ ​พระมหาอุปคุต​จะ​มารับบาตร​ ​หาก​ผู้​ใด​ได้​ใส่​บาตร​กับ​ท่านปรารถนาสิ่ง​ใด​จะ​สำ​เร็จทุกประการ​ ​นับว่า​เป็น​ความ​โชคดีของคน​ ​อ​.​กบินทร์บุรี​ ​และ​จังหวัดปราจีนบุรี​ ​ที่มีพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์​เกิดขึ้นเหมือน​กับ​ที่จังหวัดฉะ​เชิงเทรา​ ​ที่​เคยมีหลวงพ่อพุทธโสธรลอยน้ำ​มา​

ผู้​สื่อข่าวรายงานว่า​ ​หลังข่าวแพร่สะพัด​เป็น​ไฟลามทุ่ม​ ​ได้​มีชาวบ้านพา​กัน​แห่มากราบไหว้อย่าง​ไม่​ขาดสาย​ ​บางรายก็ส่องหา​เลขเด็ดที่​อยู่​รอบองค์พระ​เพื่อนำ​มา​แทงหวยเสี่ยงโชค​กัน​เพราะ​ใกล้​วันหวยออกพอดี​ ​ทางเจ้าหน้าที่​เกรงว่าองค์พระที่​ยัง​เปียกน้ำ​อยู่​จะ​ชำ​รุดทรุดโทรม​ ​เพราะ​ชาวบ้าน​ใช้​มือจับถูหา​เลขเด็ด​กัน​มาก​ ​จึง​นำ​องค์พระ​ไป​ให้​ช่างทำ​เฟอร์นิ​เจอร์ที่มีฝีมือดีตบแต่งอีกครั้งก่อน​จะ​นำ​กลับวัด​ ​และ​เปิด​ให้​ประชาชนนมัสการ​ใน​วันมาฆบูชาที่​จะ​มา​ถึง​นี้


ข้อมูล​จาก​

ต้นเหตุที่นักโทษข่มขืนหญิง

คอลัมน์​ Forward Mail จาก มติชน


น​.​ส​.​อลิสา​ ​แสงขำ​ ​นักศึกษาปริญญา​โท​ ​คณะนิติศาสตร์อาชญวิทยา​ ​เก็บข้อมูล​จาก​นักโทษข้อหาข่มขืน​จาก​คุกบางขวาง​และ​ลาดยาว​ ​จำ​นวน​ 100 ​คน​ ​พบว่า​ 90% ​เลือก​ผู้​หญิงผมยาว​ ​คือหางเปีย​ ​หางม้าปล่อยตามธรรมชาติ​ ​เพราะ​กระชาก​จาก​ข้างหลัง​ได้​ง่าย​ 87% ​เลือก​ผู้​หญิงที่สวมเสื้อผ้าถอดง่าย​ ​ถ้า​พบ​ผู้​หญิงถูกใจแต่สวมเสื้อผ้าที่​ต้อง​ใช้​เวลาถอดนาน​ ​เขา​จะ​กลับมาดักรอ​เป็น​ครั้งที่สองพร้อมกรรไกร​หรือ​คัตเตอร์​ 84% ​เลือก​ผู้​หญิงที่​เดินไป​ด้วย​คุยโทรศัพท์​ไป​ด้วย​ ​มือถือ​สามารถ​นำ​ไปขายต่อ​ได้​ ​หรือ​อ่านการ์ตูน​ ​หรือ​หนังสือ​อื่น​ขณะ​เดิน​เพราะ​ไม่​ได้​ระวังตัว​

96% ​เลือก​ผู้​หญิงที่​เดินทางไปไหนมา​ไหนเวลากลางคืน​ ​เพราะ​ผู้​ชาย​ส่วน​ใหญ่​มีประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกตอนกลางคืน​โดย​ไม่​คำ​นึงว่า​ต้อง​เป็น​ผู้​หญิงสวย​หรือ​หุ่นดี​ ​มีนักโทษบางขวางคนหนึ่ง​ให้​ข้อมูลว่า​ ​หากเวลา​นั้น​เป็น​เวลาที่​เขา​ต้อง​การปลดปล่อย​แล้ว​เขา​ไม่​เลือกว่า​จะ​เป็น​ผู้​หญิง​หรือ​ผู้​ชาย​ ​วัว​ ​ควาย​ 99% ​เลือก​ผู้​หญิงที่​เดินทางคนเดียว​ 80% ​สามารถ​ข่มขืน​ได้​ใน​การกระทำ​ครั้งแรก​โดย​ใช้​อุปกรณ์ที่​อยู่​ใน​ผู้​หญิงนั่นเอง​เป็น​อุปกรณ์​ช่วย​ประกอบการกระทำ​ผิด​ ​เช่น​ ​เข็มขัด​ ​ลูกกุญแจ​ ​กระจกส่องหน้า​ 70% ​เลิกล้ม​ความ​ตั้งใจหาก​ผู้​หญิงคน​นั้น​จ้องหน้า​เขา​แล้ว​เริ่มต้นสนทนาสั้นๆ​ ​กับ​เขา​ก่อน​ ​ขณะที่​เขา​เข้า​ประชิดตัว​

ผู้​อ่านร่วมส่งเรื่องราวเผยแพร่​ได้​ที่​ epeople@matichon.co.th

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

สุดยอดอาจารย์

นักเทศน์หน้า​เสาธง​ "ถาวร​ ​ชัยจักร"...​ผอ​.​ร​.​ร​.​มัธยมฐานบิน





​"​ให้​เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา​เวลา​ ๐๘.๐๐​น​. ​หรือ​เวลา​เข้า​เรียน​ใน​ตอน​เช้า​ตาม​ความ​เหมาะสม​ ​ส่วน​การลดธง​ใน​ตอนเย็น​ ​ให้​ลดธง​ใน​เวลา​ ๑๘.๐๐​น​. ​ทั้ง​นี้นักเรียนร้องเพลงชาติ​ใน​ขณะ​เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา​ด้วย​ตนเอง​ ​ห้าม​ใช้​วิทยุ​หรือ​แผ่นเสียง​ ​แต่​ถ้า​สถานศึกษา​จะ​ใช้​แตรวงบรรเลงประกอบการร้องของนักเรียน​ด้วย​ก็​ให้​กระทำ​ได้​"





​ที่กล่าวมาข้างต้น​ ​เป็น​การเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาของสถานศึกษา​ซึ่ง​เป็น​การปฏิบัติตามระ​เบียบการเชิญธงชาติสยาม​ ​โดย​ประกาศ​ใช้​ครั้งแรก​ใน​ ​พ​.​ศ​.๒๔๗๙​นอก​จาก​นี้​แล้ว​ยัง​มีกิจกรรมที่สำ​คัญอีก​ ๒ ​อย่าง​ ​ที่​โรงเรียนปฏิบัติ​เหมือน​กัน​คือ​ สวดมนต์​ไหว้พระและ​ ฟังการอบรม​จาก​ครูหรือ​ฟังครูด่านั่นเอง​
​แต่การเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาของโรงเรียนมัธยมฐานบินกำ​แพงแสนอ​.​กำ​แพงแสน​ ​จ​.​นครปฐม​ ซึ่ง​มีนายถาวรชัยจักร​ เป็น​ผู้​อำ​นวยการ​แล้ว​กลับมี​ความ​แตกต่าง​จาก​โรงเรียน​ทั่วๆ​ ​ไปอย่างสิ้นเชิง​ ​กล่าวคือ​ ​การเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา​เป็น​พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์​ ​มีการกล่าวคำ​ปฏิญาณตน​ ​ที่สำ​คัญคือ​ ​นายถาวร​จะ​ยืนเล่านิทานธรรมะ​และ​นิทานชาดก​ ​ก่อนเคารพธงชาติทุกๆ​ ​เช้า​ ​ให้​นักเรียนกว่า​ ๒,๕๐๐​คน​ ​ฟัง​ ​โดย​ไม่​เคย​ซ้ำ​เรื่อง​กัน​เลย​ ​และ​ทำ​มาติดต่อ​กัน​เป็น​ปีที่​ ๖ ​แล้ว​ ​ซึ่ง​อาจ​จะ​เรียก​ได้​ว่า​ ผอ​.​ถาวร​ คือ ​นักเทศน์หน้า​เสธง​ ก็​ได้​
​เพราะ​เรา​ไม่​สามารถ​บรรจุวิชาศีลธรรม​ไว้​ใน​หลักสูตร​ได้​เพราะ​เวลา​เรียนมีขอบเขตจำ​กัด​ ​โรงเรียน​จึง​ใช้​วิธีทำ​หลักสูตร​โดย​บรรจุวิชาศีลธรรม​ไว้​ใน​พิธีกรรมหน้า​เสาธง​ ๑ ​ชั่วโมง​ ​โดย​จะ​แบ่ง​กับ​รอง​ ​ผอ​.​อีก​ ๓ ​คน​ ​มา​ช่วย​สอน​และ​ช่วย​เล่านิทานธรรมะ​ ​ทั้ง​นี้​แต่ละคน​ต้อง​เขียนแผนที่​จะ​พูดแต่ละวัน​ด้วย​ ​เมื่อรวม​แล้ว​ ​นักเรียน​จะ​มี​ความ​รู้ด้านศีลธรรมครอบคลุมทุกเรื่อง​ ​นี่คือเหตุผลของนายถาวร​



​พร้อม​กับ​เล่า​ให้​ฟังว่าวันแรกที่ยืนเล่านิทานธรรมะ​ ​เด็ก​ไม่​สนใจฟังเลย​ ​แต่ก็​ไม่​คิดโทษเด็ก​ ​แต่กลับมองที่ตัวเรา​เองว่า​ ​หานิทาน​ไม่​สนุก​ ​หรือ​วิธีการนำ​เสนอที่​ไม่​ได้​เรื่อง​กัน​แน่​ ​จาก​นั้น​ก็ปรับปรุงเรื่อยมา​ ​ทุกๆ​ ​เช้า​จะ​ไม่​ไปไหน​ ​เพราะ​มีหลักที่ว่า​ ​นักเรียน​ต้อง​มี​ความ​สำ​คัญที่สุด​ ​ด้วย​เหตุนี้​ ​ถ้า​ใครนัดประชุม​เช้า​นอกโรงเรียน​ ​ผม​จะ​ปฏิ​เสธ​ ​หรือ​จะ​ส่งครูคน​อื่น​ไปแทน​ ​ซึ่ง​ตลอดเวลาของการ​เป็น​ผู้​อำ​นวยการมา​ ๖ ​ปี​ ​เล่านิทานธรรมะ​ ​รวม​ทั้ง​นิทานชาดกทุกวัน​ ​โดย​ไม่​ซ้ำ​เรื่อง​กัน​ ​โดย​เรื่องที่นำ​มา​เล่า​นั้น​ทั้ง​จาก​การอ่านหนังสือ​ ​และ​ดูรายการพุทธศาสนาทางโทรทัศน์ของดี​เอ็มซี​ ​ทั้ง​นี้​จะ​เขียน​ไว้​ทุกๆ​ ​วัน​
​วันไหนนิทานสนุกเล่ามัน​ ​เด็ก​จะ​ไม่​คุย​ ​ถ้า​เด็กคุย​จะ​ไม่​โทษเด็ก​ ​ครู​ผู้​เล่าต่างหากที่นำ​เสนอเนื้อหาที่​ไม่​น่าสนใจ​ ​รวม​ทั้ง​เรื่องการสอนหนังสือ​ด้วย​ ​การที่ครู​โทษเด็กว่า​ ​ไม่​สนใจเรียนคุย​กัน​ ​ครู​ต้อง​มอง​และ​สำ​รวจตัวเองก่อนว่า​ ​ได้​เตรียมเนื้อหามาสอน​เป็น​ที่น่าสนใจ​หรือ​เปล่า​ ​ครูคนไหนโทษเด็ก​ ​คือครู​ไม่​รู้จักตัวเอง​ ​นายถาวร​ ​กล่าว​
​นอก​จาก​ความ​โดดเด่นของพิธีกรรมหน้า​เสาธง​แล้ว​ยัง​มีนโยบายที่​โดดเด่นอีก​ ๒ ​อย่าง​ ​คือ​ ​นักเรียนทุกคน​ไม่​ต้อง​สอบ​เข้า​ ​เมื่อมาสมัครเพื่อที่​จะ​เข้า​เรียน​แล้ว​ ​โรงเรียน​จะ​มอบหนังสือคู่มือ​ผู้​ปกครองไป​ให้​ฟรีๆ​ ๑ ​เล่ม​ ​ผู้​ปกครอง​ต้อง​กลับไปอ่าน​ ​ถ้า​อ่าน​ไม่​ออก​ ​ลูก​ต้อง​อ่าน​ให้​ฟัง​ ​เนื้อหาของหนังสือ​จะ​ออกไป​ใน​แนวการเลี้ยงลูก​และ​ธรรมะ​ ​พร้อม​กับ​ให้​ข้อสอบไป​ช่วย​กัน​ทำ​ทั้ง​ครอบครัวอีก​ ๑๐๐ ​ข้อ​ ​ใน​วันมอบตัว​ผู้​ปกครอง​จะ​ต้อง​สอบ​ ​ทั้ง​นี้​จะ​นำ​ข้อสอบ​ทั้ง​ ๑๐๐ ​ข้อ​ ​มา​เลือก​ให้​เหลือ​ ๕๐ ​ข้อ​ ​โดย​จะ​สลับข้อ​กัน​ทั้ง​ข้อเขียน​และ​เลือกคำ​ตอบ​ ​ถ้า​ผู้​ปกครองสอบ​ไม่​ผ่าน​ ​ลูกของ​ผู้​ปกครอง​จะ​ไม่​ได้​เรียน​
​ทั้ง​นี้นายถาวรพูด​ไว้​อย่างน่าคิดว่าพูดเรื่องดีๆ​ทุกๆ​ ​เช้า​ ​พูดเรื่องดีๆ​ ​ทุกวัน​ ​จะ​ทำ​ให้​ผู้​ที่​ได้​ยิน​และ​ผู้​ที่พูดคิด​และ​ทำ​ใน​สิ่งดีๆ​ ​ด้วย​ ​เด็กดี​ไม่​ดีอย่า​โทษเด็ก​ต้อง​โทษพ่อแม่ครู​ผู้​ปกครองว่า​ ​ฝีมือ​ไม่​ถึง​ที่​จะ​สอน​ให้​เด็ก​เป็น​คนดี​ได้​ ​โรงเรียน​ค้น​พบกุญแจสำ​คัญที่ว่า​ ​การแก้ปัญหา​ต้อง​แก้ที่​เหตุ​ ​และ​เหตุที่​เด็ก​จะ​ดี​ ​หรือ​ไม่​ดี​ ​ไม่​ได้​อยู่​ที่ครู​ ​หาก​อยู่​ที่สถาบันครอบครัว​เป็น​หลัก​ ​พ่อแม่​เป็น​ครูคนแรก​ ​ถ้า​ครูคนแรกดีลูกย่อมดี​ด้วย​ ​ครูที่​โรงเรียน​เป็น​เพียงครูคนที่​๒-๓ ​เท่า​นั้น​ ​แม่​แบบ​หรือ​แม่พิมพ์​ซึ่ง​หมาย​ถึง​ครู​จึง​เป็น​สิ่งสำ​คัญ​
​ส่วน​อีกสิ่งหนึ่งคือโรงเรียนนี้​ไม่​มีกระดิ่ง​ ​ระฆัง​ ​รวม​ทั้ง​สัญญาณ​ใดๆ​ ​เป็น​เครื่องบอกเวลา​เข้า​แถวหน้า​เสาธง​ ​เวลาหมดคาบ​ ​เวลาพักกลางวัน​ ​รวม​ทั้ง​เวลา​เลิกเรียน​ ​ที่​เป็น​เช่นนี้​เพราะ​เกิด​จาก​การฝึกอบรมเรื่องระ​เบียบวินัย​ ​ทุกคนมีนาฬิกา​ ​ทุกคนมี​เวลา​เป็น​ของตัวเอง​ ​ทุกคนรู้หน้าที่​ ​และ​มีวินัย​ใน​ตัวเอง​ ​กระดิ่ง​ ​ระฆัง​ ​รวม​ทั้ง​สัญญาณ​ใดๆ​ ​จึง​ไม่​ใช่​สิ่งสำ​คัญ​ ​โรงเรียนแห่งนี้​ทั้ง​ครู​และ​นักเรียน​ไม่​ได้​ยินเสียงเหล่านี้มากว่า​ ๕ ​ปี​ ​แล้ว​
"พุทธศาสนา​ไม่​ได้​สอน​ให้​ท่องจำ​หลักคำ​สอน​ ​การท่องจำ​หลักคำ​สอน​ได้​ทุกข้อ​หรือ​จะ​สู้การปฏิบัติตามหลักคำ​สอนเพียงข้อเดียว​ ​ถ้า​นักเรียนมีศีลธรรม​ ​มีวินัย​ ​รู้หน้าที่​ ​สิ่งที่ตามมาคือ​ ​การเอา​ใจ​ใส่​ต่อการเรียน​ ​เอา​ใจ​ใส่​ต่อการอ่าน​ ​มี​ความ​เพียรพยามยาม​ ​ซึ่ง​เป็น​จุดเริ่มต้นของการเรียนเก่งนั่นเอง" ​นายถาวร​ ​กล่าวทิ้งท้าย​

เสียง​จาก​ทีมบริหาร​
อ​.​ประ​เจิด​อยู่​สงค์​ รอง​ผู้​อำ​นวยการกลุ่มบริหารวิชาการบอกว่า​ ​นอก​จาก​ความ​โดดเด่นเรื่องศีลธรรมของนักเรียน​แล้ว​ ​ศีลธรรมของครูก็​แตกต่าง​จาก​โรงเรียน​อื่นๆ​ ​เดิมทีครูกินเหล้า​ ​สูบบุหรี่​ ​พอๆ​ ​กับ​นักเรียน​ ​แต่​เมื่อครู​ได้​ยินครู​ใหญ่​ฝึกอบรมศีลธรรมนักเรียนหน้า​เสาธง​ ​ซึ่ง​ครู​ทั้ง​โรงเรียนก็ฟัง​อยู่​ด้วย​ ​ทำ​ให้​ครู​เกิด​ความ​ละอายนักเรียน​ ​จาก​ที่กินเหล้าสูบบุหรี่​อยู่​ก็ทยอยเลิก​ ​ใน​ที่สุดจำ​นวนครูที่กินเหล้าสูบบุหรี่​ ​เกือบ​จะ​ไม่​มี​เลย​ ​โดย​เฉพาะ​ใน​ระดับ​ผู้​บริหารถือว่า​ไม่​มี​เลย​
​ปี​แรกครู​ให้​ความ​สนใจ​กับ​แนวคิดของผอ​.​เพียงร้อยละ​ ๑๐ ​เท่า​นั้น​ ​ปีถัดมาก็​เพิ่มขึ้น​ ​จน​ถึง​ปีที่​ ๔ ​ครู​จึง​เห็น​ด้วย​เกือบเต็มร้อย​ ​ที่​เห็นชัดเจน​ ​คือ​ ​กินเหล้าสูบบุหรี่​ ​รวม​ทั้ง​เรื่องชู้สาว​ ​หาย​จาก​โรงเรียนแห่งนี้​ไปเลย​
​นอก​จาก​นี้​แล้ว​ครูทุกคน​ใน​โรงเรียน​ซึ่ง​มี​อยู่​เกือบ​ ๑๓๐ ​คน​ ​จะ​ต้อง​สอบวัดผลเรื่องคุณธรรมจริยธรรมทุกๆ​ ​ปี​ ​ด้วย​
​"​ใน​ส่วน​ของ​ผู้​ปกครอง​ ​ก็​เช่น​กัน​ ​แรกๆ​ ​ก็​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​นโยบายของโรงเรียน​ ​แต่​เมื่อโรงเรียนบอกว่า​ ​ทุกสิ่งที่​เราทำ​ ​เรา​ไม่​ได้​ทำ​เพื่อตัวเอง​ ​หรือ​ทำ​เพื่อโรงเรียน​ ​แต่​โรงเรียนทำ​เพื่อลูกหลานของท่าน​ ​ผู้​ปกครอง​จึง​เห็น​ด้วย​กับ​โนยบายของโรงเรียน" ​อ​.​ประ​เจิด​ ​กล่าว​
0 ​เรื่อง​ / ​ภาพไตรเทพ​ ​ไกรงู​ 0

ข้อมูลจาก คมชัดลึก

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

จิตตานุภาพ



จิตตานุภาพ​ คืออานุภาพของจิต​ ​แบ่ง​เป็น​ ๓ ​ประ​เภท​ ​คือ​
• ​จิตตานุภาพบังคับตนเอง​
• ​จิตตานุภาพบังคับ​ผู้​อื่น​
• ​จิตตานุภาพบังคับเคราะห์กรรม​

จิตตานุภาพบังคับตนเอง​
“ ​ตนของตนย่อม​เป็น​ที่พึ่งแก่ตนเอง​ ” ​เหตุนี้​จึง​ต้อง​หัดบังคับตนเอง​ ​ผู้​อื่น​ถึง​จะ​เป็น​ศัตรูก็​ไม่​เท่า​ตน​เป็น​ศัตรูต่อตนของตนเอง​ ​ถ้า​ยัง​ไม่​สามารถ​บังคับตนของตนเอง​ให้​ดี​ได้​แล้ว​ ​ก็อย่าหวังเลยว่า​จะ​บังคับ​ผู้​อื่น​ให้​ดี​ได้​

จิตตานุภาพบังคับตนเองมี​ ๗ ​ประการ​
บังคับ​ความ​หลับ​และ​ความ​ตื่น​
​การหัดนอน​ให้​หลับสนิท​เป็น​กำ​ลังสำ​คัญยิ่งนัก​ ​เหตุที่ทำ​ให้​นอน​ไม่​หลับมี​ ๒ ​ประการ​ ​คือ​
๑.๑ ​ร่างกาย​ไม่​สบายพอ​
​อาหารที่ย่อยยากก็​เป็น​เหตุ​ให้​ร่างกาย​ไม่​สบายพอ​ ​ควรนอนตะ​แคงข้างขวา​ ​ถ้า​นอนหงายก็ควร​ให้​เอียงขวานิดหน่อย​ ​ถ้า​ต้อง​การพลิกก็ควรพลิก​จาก​ขวานิดหน่อย​ ​แล้ว​กลับตะ​แคงขวาตามเดิม​ ​นอนย่อม​ให้​อวัยวะทุก​ส่วน​พักผ่อน​ ​อย่า​ให้​เกร็งตึง​และ​ไม่​ควรตะ​แคงซ้าย​
๑.๒ ​ความ​คิดฟุ้งซ่าน​
​เวลานอน​ถ้า​จิตฟุ้งซ่าน​ ​ควรคิด​ถึง​สิ่ง​ใด​สิ่งหนึ่ง​ ​แต่อย่างเดียว​ ​ครั้น​แล้ว​ก็​เลิกละ​ไม่​คิดสิ่ง​นั้น​ ​และ​ไม่​คิดอะ​ไร​อื่น​ต่อไปอีก​ ​กระทำ​ใจ​ให้​หมดจดเหมือนน้ำ​ที่​ใสสะอาด​
​ควรบังคับตัว​ให้​ตื่นตรงตามเวลาที่​ต้อง​การ​ ​ก่อนนอน​ต้อง​คิด​ให้​แน่​แน่ว​ ​สั่งตนเอง​ให้​ตื่นเวลา​เท่า​นั้น​ ​เมื่อ​ถึง​เวลาก็​จะ​ตื่น​ได้​เองตาม​ความ​ประสงค์​

ทำ​ความ​คิด​ให้​ปลอดโปร่ง​ ​ว่องไว​ ​ใน​เวลาตื่นขึ้น​ ​อย่า​ให้​เซื่องซึม​ “ ​ต้อง​เอา​ความ​คิด​ใน​เวลาตื่น​เช้า​ ​ไปประสานติดต่อ​กับ​ความ​คิดที่​เราทิ้ง​ไว้​เมื่อวันวานก่อนที่​จะ​นอนหลับ​ ” ​ก่อนนอนควรจดบันทึกกิจการที่​เรา​จะ​ต้อง​ทำ​ใน​วันรุ่งขึ้น​นั้น​ไว้​ใน​กระดาษแผ่นหนึ่งเสมอ​ ​พอตื่นขึ้นมาก็หยิบดู​เพื่อปลุก​ความ​คิด​ให้​ตื่น​
เปลี่ยน​ความ​คิด​ได้​ตาม​ต้อง​การ​ คือเมื่อ​ต้อง​การคิดอย่าง​ใด​ก็​ให้​คิด​ได้​อย่าง​นั้น​ ​ทิ้ง​ความ​คิด​อื่น​ ​ๆ​ ​หมด​ ​และ​เมื่อ​ไม่​ต้อง​การคิดอีกต่อไป​ ​จะ​คิดเรื่อง​อื่น​ก็​ให้​เปลี่ยน​ได้​ทันที​ ​และ​ทิ้งเรื่องเก่า​โดย​ไม่​เอา​เข้า​มาพัวพัน​ ​คือทำ​ใจ​ให้​เป็น​สมาธิ​อยู่​ที่กิจเฉพาะหน้า​ ​การเปลี่ยน​ความ​คิด​เป็น​เหตุ​ให้​ห้องสมองมี​เวลาพักชั่วคราว​ ​ทำ​ให้​สมองมีกำ​ลังแข็งแรงขึ้น​
สงบใจ​ได้​แม้​เมื่อตก​อยู่​ใน​อันตราย​ ​หรือ​ประสบทุกข์​ อย่า​ให้​เสียใจหมดสติสะดุ้ง​ ​ดิ้นรนจนสิ้นปัญญา​แก้​ไข​ ​เกิด​ความ​ท้อถอย​ไม่​ทำ​อะ​ไรต่อไป​ ​ความ​สงบ​ไม่​ตื่นเต้น​เป็น​เหตุ​ให้​เกิดปัญญาประกอบกิจ​ให้​สำ​เร็จ​ได้​สมหวัง​ ​เรา​จะ​แก้​ไขเหตุร้ายที่​เกิดขึ้นแก่​เรา​ได้​นั้น​ก็มีทาง​จะ​ทำ​อยู่​ ๒ ​ขั้น​
๔.๑ ​ต้อง​สงบใจมิ​ให้​ตื่นเต้น​
๔.๒ ​ต้อง​มี​ความ​มานะพยายาม​
วิธีสงบใจที่ดีที่สุด​ ​หายใจยาว​และ​ลึก​

เปลี่ยนนิสัย​ความ​เคยชินของตัว​จาก​ร้าย​เข้า​มาหาดี​ การขืนใจตัวเองชั่วขณะหนึ่งอาจ​เป็น​ผลดี​แก่ตัวเองตลอดชีวิต​ ​แต่การทำ​ตามใจตัวขณะ​เดียวก็อาจ​เป็น​ผล​ถึง​การทำ​ลายชีวิตของเรา​ได้​เหมือน​กัน​
ตรวจตราตัวของตัว​เป็น​ครั้งคราว​โดย​สม่ำ​เสมอ​ ให้​ทราบว่ากำ​ลังใจมั่นคงขึ้น​หรือ​ไม่​ ​ฝ่ายกุศลเจริญขึ้น​หรือ​ไม่​ ​ฝ่ายอกุศลลดน้อยเบาบางหมดสิ้นไป​หรือ​ไม่​ ​ใจ​ยัง​สะดุ้งดิ้นรนหวั่นไหว​อยู่​หรือ​ไม่​
ป้อง​กัน​รักษาตัว​ด้วย​จิตตานุภาพ​ การสะดุ้งตกใจ​หรือ​เสียใจ​ ​ความ​กลัว​ ​เป็น​เหตุ​ให้​เกิดโรค​และ​โรคกำ​เริบ​ ​และ​เป็น​เหตุ​ให้​คนดี​ ​ๆ​ ​ตาย​ได้​ ​คนไข้​ถ้า​ใจดีหาย​เร็ว​ ​ความ​ไม่​กลัวตายรอดอันตราย​ได้​มากกว่ากลัวตาย​ ​ความ​พยายาม​และ​อดทน​เป็น​เหตุ​ให้​สำ​เร็จสมประสงค์​

จิตตานุภาพบังคับ​ผู้​อื่น​
​จิตตานุภาพอย่างอ่อน​ ​สามารถ​ใช้​สายตา​ ​น้ำ​เสียง​และ​ด้วย​กระ​แสจิตประกอบคำ​พูด​ ​ซึ่ง​จะ​เป็น​เครื่องจูงใจคน​ให้​เชื่อฟัง​ ​ลักษณะ​ไม่​หวาดหวั่นครั่นคร้ามต่อใคร​ ​ๆ​ ​นั้น​ไม่​ใช่​ชีวิตหัวดื้อบึกบึน​ซึ่ง​ไม่​นับว่า​เป็น​จิตตานุภาพ​ ​ต้อง​เป็น​คนสุภาพสงบเสงี่ยม​ ​เคารพนบนอบต่อบุคคลที่ควรเคารพ​ ​แต่ทว่าหัวใจของคนชนิด​นั้น​ไม่​หวาดหวั่นเกรงกลัวใคร​ ​และ​สามารถ​แสดง​ให้​เห็นว่าตัว​เป็น​มนุษย์คนหนึ่ง​อยู่​ใน​โลก​ ​และ​เป็น​มนุษย์ที่รู้จักคิด​ ​รู้จักพูด​ ​รู้จักทำ​
​คนที่​สามารถ​เป็น​นายตนเอง​ ​ไม่​ตก​เป็น​ทาสของหัวใจคน​อื่น​ ​และ​สามารถ​ดึงดูดหัวใจคน​เข้า​มา​เชื่อฟังเกรงกลัว​นั้น​ ​ถ้า​สังเกต​ให้​ดี​แล้ว​จะ​เห็น​ได้​ว่ามีลักษณะ​ ๔ ​ประการ​
• ​สายตา​แข็ง​ ​มีอำ​นาจ​ใน​ตัว​
• ​เสียงชัดแจ่มใส​
• ​ท่าทางสงบเสงี่ยม​และ​เป็น​สง่า​
• ​รู้จักวิธีชักจูงหัวใจคน​ให้​หันมา​เข้า​ใน​คลอง​ความ​คิดของตัว​
​พยายามอ่านหนังสือหน้าหนึ่ง​โดย​ไม่​กะพริบตา​เลยทำ​ให้​สายตา​แข็ง​ได้​ ​อ่านหนังสืออย่างช้า​ ​ๆ​ ​ให้​ชัดถ้อยคำ​ทุก​ ​ๆ​ ​ตัว​และ​ให้​ได้​ระยะ​เสมอ​กัน​ทำ​ให้​เสียงชัดแจ่มใส​
​เวลาพูด​ ​พยายามพูด​ให้​เป็น​จังหวะอย่า​ให้​ช้าบ้าง​เร็ว​บ้าง​และ​ให้​ชัดถ้อยคำ​เสมอ​ ​ไม่​ให้​อ้อมแอ้ม​หรือ​กลืนคำ​เสียครึ่งหนึ่ง​ ​เป็น​การฝึกหัด​ให้​เสียงชัดเจนแจ่มใส​
บุคคลที่มีสง่า​ ​คือคนที่บังคับร่างกาย​ให้​อยู่​ใน​อำ​นาจหัวใจ​ได้​เสมอ​ ​มีท่าทางสงบเสงี่ยม​เป็น​สง่า​ไม่​แสดงอาการโกรธ​ ​เกลียด​ ​กลัว​ ​รัก​ ​ขมขื่น​ ​ตกใจ​ ​สะดุ้ง​ ​เศร้า​โศก​ ​ให้​ปรากฏ​ ​ไม่​ทำ​อิริยาบถเคลื่อนไหวอัน​ใด​โดย​ไม่​จำ​เป็น​ ​และ​โดย​บอก​ความ​กำ​กับ​ของใจ​ ​มีหน้าตา​แจ่มใส​ ​อิริยาบถสงบเสงี่ยม​เป็น​สง่า​อยู่​ทุกขณะ​ ​การเคลื่อนไหวทุกอย่างทำ​ด้วย​ความ​หนักแน่นมั่นคง​ ​อย่า​ให้​รวด​เร็ว​จน​เป็น​การหลุกหลิก​ ​หรือ​ผึ่งผายจน​เป็น​การเย่อหยิ่ง​ ​หรือ​อ่อนเปียกจน​เป็น​การเกียจคร้าน​ ใน​เวลายืน​ให้​น้ำ​หนักตัวถ่วง​อยู่​ทั่ว​ตัวเสมอ​ ​ไม่​ให้​ถ่วงแต่​ส่วน​ใด​ส่วน​หนึ่ง​
​รู้จัก​ใช้​วิธีชักจูงหัวใจคน​ให้​หัน​เข้า​มา​ใน​คลอง​ความ​คิดของเรา​
• ​หลีกเลี่ยง​ไม่​ให้​เกิดมีสิ่งที่​จะ​ชักจูง​ให้​เขา​ละทิ้งข้อแนะนำ​ของเรา​
• ​จูงใจ​เขา​ให้​หัน​เข้า​มา​ใน​ทางที่​เรา​ต้อง​การทุกที​

วิธีป้อง​กัน​ตัว​ไม่​ให้​จิตตานุภาพของ​ผู้​อื่น​บังคับเรา​ได้​
​ให้​ทำ​มโนคติ​ให้​เห็นประหนึ่งว่า​ ​กระ​แสดวงจิตของเรา​แผ่ซ่านป้อง​กัน​อยู่​รอบตัวเรา​ ​จิตตานุภาพของ​ผู้​อื่น​ไม่​สามารถ​จะ​เข้า​ถึง​ตัวเรา​ได้​ ​ให้​ทำ​เวลา​เข้า​นอนครั้งหนึ่ง​ ​และ​ขณะที่​อยู่​ใกล้​บุคคลที่​เราระ​แวงว่า​เขา​จะ​ใช้​จิตตานุภาพบังคับเรา​

จิตตานุภาพบังคับเคราะห์กรรม​
​เครื่องมือที่​จะ​ชักนำ​เอา​เคราะห์ดี​เข้า​มา​ ​คือ​ ​ความ​พยายามเข้มแข็ง​ไม่​ท้อถอยหนักแน่นระมัดระวัง​ ​เชื่อแน่​ใน​ความ​พากเพียรบากบั่นของตัว​ ​มัก​จะ​เป็น​คนเคราะห์ดี​อยู่​เสมอ​ ​และ​มีคุณสมบัติอย่าง​อื่น​อีกคือ​ ​ความ​มุ่งหมาย​และ​อย่า​ให้​นึก​ถึง​เคราะห์ร้าย​ ​ตั้ง​ความ​มุ่งหมาย​ถึง​ผลอัน​ใด​ใน​ชีวิต​ไว้​เท่า​นั้น​ ​เพื่อ​ให้​ก้าวหน้ามุ่งตรงไปจนบรรลุสมประสงค์​
​ความ​มุ่งหมายจำ​ต้อง​ให้​สูง​ไว้​เสมอ​ ​เพื่อ​จะ​ได้​มี​ความ​พยายามอย่างสูง​ด้วย​ ​แต่การก้าวไปสู่ที่มุ่งหมาย​นั้น​ ​ต้อง​ก้าวอย่างระมัดระวัง​ไม่​ก้าว​ให้​ผิด​ “ ​ควรมี​ความ​ปรารถนา​ให้​สูง​อยู่​เสมอ​ ​แต่​จะ​ต้อง​ระมัดระวังมิ​ให้​เดินพลาด​ ”
การ​ไม่​ยอมแพ้​เคราะห์ร้าย​ ​เป็น​เหตุ​ให้​เคราะห์ร้ายพ่ายแพ้​เองเมื่อประสบเคราะห์​
• ​จะ​ต้อง​ไม่​ให้​ใจเสีย​ ​เชื่อมั่น​ใน​ความ​รู้​ความ​สามารถ​ของตัว​ ​รวบรวมกำ​ลัง​ให้​พรั่งพร้อม​
• ​ตั้ง​ความ​มุ่งหมาย​ให้​ดี​และ​ตกลงแน่ว่า​จะ​มุ่งไปทางไหน​
• ​ใช้​ความ​ระมัดระวัง​ให้​มากขึ้น​ ​กุมสติ​ให้​มั่น​ ​อย่างไรก็ดี​จะ​ปล่อย​ให้​เป็น​ไปตามยถากรรม​ ​ทำ​การต่อสู้ดังกล่าว​แล้ว​นั้น​ไม่​ได้​เป็น​อันขาด​


การต่อสู้​กับ​เคราะห์​
• ​จะ​ต้อง​สงบใจ​ ​ไม่​ตื่นเต้น​ ​ไว้​ใจตัว​และ​เชื่อแน่ว่า​ ​เรามีจิตตานุภาพ​เป็น​เครื่องมือรวมกำ​ลังสติปัญญาของเรา​ให้​พรั่งพร้อม​ ​เช่นเดียว​กับ​นายเรือที่​ไม่​รู้จักเสียใจ​ ​รวบรวมกำ​ลังเรือ​และ​กำ​ลังคน​ให้​บริบูรณ์​
• ​ต้อง​ยึดที่หมาย​ให้​แน่น​ ​กล่าวคือระลึก​ถึง​ผลที่​เรา​ต้อง​การบรรลุ​นั้น​ให้​แน่วแน่ยิ่งขึ้น​ ​เปรียบเสมือนนายเรือที่ตั้งเข็มทิศ​ให้​ตรง​ ​และ​ให้​รู้​แน่ว่า​จะ​ต้อง​การ​ให้​เรือบ่ายเบี่ยงไปทางไหน​
• ​ใช้​ความ​ระมัดระวัง​ให้​มากยิ่งกว่า​เมื่อก่อน​จะ​เกิดเหตุร้ายอีกหลาย​เท่า​ ​และ​ความ​วินิจฉัยที่ถูก​ต้อง​ ​ทำ​ทางปฏิบัติของเรา​เหมือนอย่างหางเสือเรือ​ ​ที่​จะ​ช่วย​ให้​เรือบ่ายเบี่ยงไปทางทิศที่​ต้อง​การ​จะ​ไป​
• ​ไม่​สามารถ​จะ​ก้าวไปข้างหน้า​ได้​ก็อย่าถอยหลัง​ ​ให้​หยุด​อยู่​กับ​ที่​
• ​ให้​รู้สึกว่า​เคราะห์​นั้น​ทำ​ให้​เราดีขึ้น​ ​เป็น​ครูของเรา​ ​เป็น​ผู้​เตือนเรา​ ​เป็น​ผู้​ลวงใจเรา​ ​อย่า​เห็นว่า​เคราะห์กรรม​เป็น​ของเลว​ ​ไม่​น่าปรารถนา​ ​ควรคิดว่า​เป็น​ของดีที่ทำ​ให้​เรา​เข้มแข็งมั่นคงขึ้น​ ​ให้​รู้สึกเสมอว่า​เรา​เกิดมา​เรียน​ทั้ง​เคราะห์ร้าย​และ​เคราะห์ดี​ ​เคราะห์​เป็น​บทเรียนของเรา​ ​ที่​จะ​ทำ​ให้​เรา​แจ้งโลก​แล้ว​จะ​ได้​พ้นโลก​ ​ดังนี้​ ​จะ​ไม่​รู้จักเคราะห์ร้ายเลย​ใน​ชีวิต​


ที่มา
http://www.kanlayanatam.com/sara/sara61.htm

Logo เก่า ๆ หาดูยาก

Logo เก่า ๆ จำกันได้ไหม
เกิดทันหรือเปล่า

ดูกันเพลินๆ


Adobe Systems


Source: Adobe Press


Apple Inc.




Canon


Source: Canon Origin and Evolution of the Logo



Google




IBM



Source: IBM Archives



LG Electronics




Microsoft



Microsoft’s "groovy logo" source: Coding Horror


Motorola




Mozilla Firefox




Nokia



Source: about-nokia.com



Palm




Xerox


Source: Xerox Historical Logos


ที่มา neatorama.com